โครงการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร : CDD WORK SMART
(A B C D E F : S&P)
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคำชะอี ได้ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร : CDD WORK SMART ตามนโยบายกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
A = Appreciation : ชื่นชม หมายถึง การตระหนัก เข้าใจ ชื่นชมยินดี ยอมรับนับถือ ยกย่องให้เกียรติในคุณค่าและความสำคัญของผู้อื่น
B = Bravery : กล้าหาญ หมายถึง ความกล้าหาญไม่เกรงกลัวต่ออันตรายหรือความยากลำบาก หรือสถานการณ์ยุ่งยากไม่สบายใจ
C = Creativity : สร้างสรรค์ หมายถึง ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ประดิษฐ์ คิดค้นสิ่งใหม่ด้วยความคิดของตัวเองที่ไม่ธรรมดา
D = Discovery : ใฝ่รู้ หมายถึง การใฝ่รู้ การค้นหา การค้นพบข่าวสาร ความรู้ สถานที่และวัตถุต่างๆ เป็นครั้งแรก
E = Empathy : เข้าใจ หมายถึง ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด หรือประสบการณ์ของผู้อื่น โดยการเอาใจเราไปใส่ใจเขา จินตนาการว่า หากอยู่ในสถานการณ์นั้นจะเป็นเช่นไร
F = Facilitation : เอื้ออำนวย หมายถึง การทำให้ง่ายการทำให้งานนั้นเป็นไปได้การเอื้ออำนวยความสะดวกให้ผู้อื่นทำงานในวิถีทางที่เหมาะสมกับตัวเขาเอง
S = Simplify : ทำให้ง่ายขึ้น ทำให้เข้าใจง่าย ทำให้ชัดเจน
P = Practical : ความเป็นจริงเกี่ยวกับการกระทำ การปฏิบัติ สามารถปฏิบัติได้ เหมาะสม มีประโยชน์ ตามความเป็นจริง
ใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมายสำคัญ "ชุมชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง" "คนสำราญ งานสำเร็จ"
การนำวัฒนธรรมองค์การ CDD WORK SMART
ไปใช้ในการเตรียมคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่น บ.แข้ หมู่ 5
ต.บ้านค้อ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
โดย....สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
แบบบันทึกความรู้
ชื่อ – สกุล ผู้ถอดบทเรียน สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคำชะอี
บันทึกเมื่อ 18 มิถุนายน 2558
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
ชื่อเรื่อง การนำวัฒนธรรมองค์การCDD WORK SMART ไปใช้ในการเตรียมคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่น บ.แข้ หมู่ 5 ต.บ้านค้อ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
๑.บทนำ
กรมการพัฒนาชุมชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ จนเป็นวิถีชีวิตของสังคมไทย ได้ริเริ่มคิดค้นและพัฒนารูปแบบกิจกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงมาตั้งแต่ปี 2549 โดยดำเนินโครงการและปรับปรุงพัฒนาเป็น” หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ” ในปี 2552 เป็นการขยายแนวคิดการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมกันขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ “สังคมอยู่เย็น เป็นสุข” อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนา ซึ่งบ้านแข้ หมู่ 5 ตำบลบ้านค้อ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ก็เป็นอีกหมู่บ้านเป้าหมายใน ปี 2558 งบกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับการพิจารณาเข้าร่วมกิจกรรมหมู่บ้านขยายผลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2558และเข้ารับการคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่น “อยู่เย็น เป็นสุข” จนได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับที่ 1 ระดับจังหวัด ด้วยความพร้อมเพรียงและการมีส่วนร่วมของชุมชน อย่างภาคภูมิใจ
๒.วิธีการ หรือกระบวนการทำงานหรือขั้นตอนอย่างไรบ้าง และแต่ละวิธีการ หรือกระบวนการทำงาน หรือขั้นตอน มีวิธีปฏิบัติอย่างไร มีเทคนิคดีๆหรือเคล็ดลับอะไรบ้าง
๒.๑ Appreciation Eยอมรับนับถือให้เกียรติและให้ความสำคัญกับผู้นำชุมชน และกม.แกนนำ เชื่อมั่นในศักยภาพของเขา โดยการเชิญผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และแกนนำ มาประชุมทำความเข้าใจ เพื่อลงไปจัดเวทีประชาคมคัดเลือกครัวเรือนต้นแบบอีก 30 ครัวเรือน และให้ผู้นำชุมชนพร้อมชาวบ้านได้ดำเนินกิจกรรมอยู่บนพื้นฐานการมีส่วนร่วม โดยผ่านเวทีประชาคมในการตัดสินใจ ใครทำดีก็มีการยกย่องชมเชย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน
๒.๒ B : Bravery กล้าหาญไม่เกรงกลัวต่อความยากลำบาก หรือสถานการณ์ยุ่งยากไม่สบายใจ เห็นได้จากผู้นำชุมชนเป็นแบบอย่างในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง จะเห็นได้จากครัวเรือนของแกนนำสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้และดำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเป็นรูปธรรม และทุ่มเท เสียสละในการทำงาน ร่วมกับนายอำเภอ เจ้าหน้าที่พช. ตลอดจนหน่วยงานทุกภาคส่วน
๒.๓ C:Creativity มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ พัฒนาและเสนอผลงานให้แตกต่างและดีกว่าเดิม จะเห็นได้จากการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานในพื้นที่ การเตรียมกิจกรรม การประสานบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อเป้าหมายอันเดียวกันคือการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง และมีการสนับสนุนให้ผู้นำชุมชนนำเสนองานโดยการนำสื่อวีดิทัศน์ การนำเสนอโดยระบบIT การถ่ายทอดนำเสนอภูมิปัญญาโดยผ่านบทกลอนลำและวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน และเน้นการทำงานเป็นทีม การมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน โดยมอบหมายงานให้ตามความถนัดของแต่ละบุคคล เช่น ในการฝึกอบรมภาคทฤษฎี โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำทางธรรมชาติที่อยู่ในชุมชน แสดงศักยภาพที่มีอยู่โดยให้ร่วมเป็นวิทยากร และนำแกนนำครัวเรือนต้นแบบ 30 ครัวเรือนไปดูงานที่กลุ่มเป้าหมายสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพในชีวิตประจำวันได้
๒.๔ S: Simplify ทำงานให้ชัดเจนและง่ายขึ้น เช่น การสาธิตกิจกรรม โดยนำคนที่มีความรู้อยู่ในชุมชนมาเป็นวิทยากร แบบพี่สอนน้อง
๒.๕ D: Discovery มีการเรียนรู้และพัฒนางานและตนเองอย่างต่อเนื่อง มีผลงานการนำเสนอความรู้สามารถนำมาปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การศึกษา การสรุปถอดบทเรียน การใฝ่รู้หาความรู้ทางด้านเทคโนโลยี่ใหม่ๆ มาใช้ในงาน เช่น การนำเสนอสื่อวีดีทัศน์ การศึกษาดูงานแล้วนำมาใช้ในพื้นที่สรุปกิจกรรมและถอดบทเรียนการดำเนินงาน ประเมินความสุขมวลรวม
2.6 E: Empathy ทำงานด้วยการเอาใจเราไปใส่ใจเขา ยอมรับความแตกต่างของแต่ละบุคคล ปฏิบัติต่อทีมงานและผู้นำกลุ่มองค์กร ชาวบ้าน อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน เช่น นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ พช. นายก อบต. ผอ.รพสต. และบุคลากรทางการศึกษาทั้งที่อยู่ในระบบและเกษียณแล้ว ในท้องถิ่น ร่วมผนึกกำลังในการทำงานเตรียมพื้นที่ประกวดหมู่บ้านอย่างทุ่มเทและเสียสละ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้นำ กลุ่มองค์กร ชาวบ้านด้วยความเอาใจใส่ และจริงจัง จริงใจ
2.7 F: Facilitation เอื้ออำนวย ในการทำงานทั้งในสำนักงานและงานในพื้นที่ เช่น ในการเตรียมกิจกรรมการคัดสรร ทีมงาน พช.จะเอื้ออำนวยทางด้านวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงาน แก่บุคลากรในหมู่บ้านที่มีความสามารถทางด้านเทคโนโลยี เอื้ออำนวยในการจัดเวทีประชาคม เพื่อให้งานราบรื่นและเน้นการมีส่วนร่วมให้มากที่สุดด้วยความยิ้มแย้ม เป็นมิตร จนชุมชนเกิดการยอมรับและประทับใจในการทำงานร่วมกัน
๓.ข้อแนะนำ หรือพึงระวังอย่างไร
๓.๑ การสร้างความเข้าใจก่อนการดำเนินงานกับผู้นำหมู่บ้านและแกนนำเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
๓.๒ การพิจารณาคัดเลือกครัวเรือนต้นแบบ และกิจกรรมสาธิตอาชีพ ต้องผ่านเวทีประชาคม และมาจากความต้องการของชุมชนจริงๆ กิจกรรมถึงจะยั่งยืน
๓.๓ ในการพิจารณาครัวเรือนต้นแบบ ครัวเรือนนั้นจะต้องทำกิจกรรมตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เช่น กิจกรรมการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ฯลฯ อยู่ก่อนแล้ว จะได้เห็นผลเป็นรูปธรรมและสามารถเป็นแบบอย่างของครัวเรือนอื่นได้
๓.๔ ให้ความสำคัญกับผู้นำและแกนนำ ตลอดจนกลุ่ม องค์กร ชาวบ้าน โดยการชื่มชม ยกย่องเชิดชู ให้กำลังใจ เอาใจเขามาใสใจเรา
๓.๕ ประสานบูรณาการกับหน่วยงาน ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุมชน เช่น ปกครอง อบต. รพสต. เกษตร โรงเรียน ฯลฯเพื่อเข้ามาส่งเสริม สนับสนุน อย่างต่อเนื่อง
๔.ความยุ่งยาก/ปัญหา/อุปสรรค
๔.๑ หมู่บ้านเป็นหมู่บ้านแฝด ดังนั้นการทำกิจกรรมก็ต้องพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายจากทั้ง 2 หมู่บ้าน ให้เท่าเทียมกัน ระมัดระวังคำพูด การสื่อสาร และกริยาอาการที่จะไปกระทบกับคนในชุมชน
๕.ประโยชน์ที่ได้รับ
๕.๑ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน/องค์กร
- เป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานให้กับหมู่บ้าน มีความสามัคคี ผนึกกำลังในการทำงานอย่างทุ่มเท เสียสละเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้สถานการณ์ขาดผู้บริหาร
- ได้รับความศรัทธาไว้วางใจและมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้นำ แกนนำ กลุ่ม องค์กร และคนในชุมชน ทำให้ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติงานพัฒนาชุมชนอย่างดี
- ได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่น ทีมงานได้รับขวัญกำลังใจจากนายอำเภอ จากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในพื้นที่
๕.๒ ประชาชน
-มีการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม
-ครัวเรือนต้นแบบทั้ง 30 ครัวเรือน สามารถเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต และเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ครัวเรือนอื่นๆ ได้
-ประชาชนมีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้ไม่มีหนี้นอกระบบ
-มีสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทางด้านการประกอบอาชีพ คือ กลุ่มทอผ้า กลุ่มทอเสื่อกก และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
- ภาคภูมิใจในกิจกรรมที่พวกเขามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นตนกระทั่งเป็นต้นแบบในการเรียนรู้ได้
๕.๓ ชุมชน
- คนในชุมชนสมัครสมานสามัคคี เอื้ออารีต่อกัน มีความภาคภูมิใจในรางวัลที่ได้รับ เป็นแรงผลักดันให้สร้างกิจกรรมอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม
-คนในชุมชนมีการรวมตัวกันทำกิจกรรม 6 ฐาน คือ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ประหยัด การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การเอื้ออารี
-มีสวัสดิการชุมชน จัดสรรจากผลกำไรของกลุ่มออมทรัพย์ และกลุ่มการเงินอื่นๆ ในชุมชน เพื่อช่วยเหลือสมาชิกและคนในชุมชนตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต และประสบเหตุภัยพิบัติต่างๆ
- ชุมชนมีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น มีป้ายแสดงกลุ่ม องค์กร การจัดระเบียบบริเวณภายในหมู่บ้าน การจัดการขยะ มีการรวมพลังจัดตั้งกลุ่มในการดูแลรักษาแหล่งน้ำ อนุรักษ์ปลูกพันธุ์ไม้ สนับสนุนพันธุ์ปลา ภายใต้กลุ่ม”รักษ์ห้วยแข้”โดยไม่พึ่งพางบประมาณจากทางราชการ
การดำเนินงานในงานพัฒนาชุมชนทุกกิจกรรมนั้น จะประสบผลสำเร็จและมีกิจกรรมต่อเนื่องยั่งยืนได้นั้น ต้องเกิดจากความต้องการของชุมชน ซึ่งจะส่งผลต่อการมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน เปิดโอกาสให้ผู้นำและกลุ่ม องค์กร ชาวบ้านได้แสดงศักยภาพ บนพื้นฐานวัฒนธรรมและกิจกรรมที่มีอยู่ในท้องถิ่น “เข้าถึง เข้าใจ พัฒนา” ก้าวหน้าสู่ความยั่งยืนและพึ่งตนเองได้ และที่สำคัญอย่างยิ่งของการทำงานเป็นทีมคือ การทุ่มเทเสียสละ ช่วยเหลือกันตามความถนัด เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน และได้รับขวัญกำลังใจ เป็นสิ่งสำคัญในการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์งาน พช.